แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความซึ้งๆ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บทความซึ้งๆ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

19 ประการในการเป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจ

19 ประการในการเป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจ

      การที่คน ๆ หนึ่งจะไปร่วมหรือเข้าสังคมกับใครนั้น ถ้าสามารถทำตัวเองให้เป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริง ๆ มีคนมากมายถึงแม้จะมีความชาญฉลาดคล่องแคล่ว หรือมีความรู้ความสามารถก็ตาม แต่เมื่อไปอยู่ร่วมกับคนอื่นเพียงไม่นาน ก็เป็นที่น่ารังเกียจต่อคนเหล่านั้น และสิ่งที่น่าเศร้าใจมากกว่า 
นี้ ก็คือ มีพี่น้องคริสเตียนที่ร้อนรนรับใช้พระเจ้า แต่กลับเป็นที่น่ารังเกียจในทุกที่ที่เขาเข้าร่วม คือเมื่อคนอื่นเห็นเขาก็รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจอยากหลีกห่างไกลจากพวกเขา และถ้าหากการที่คนอื่นรังเกียจเขาเป็นเพราะเหตุที่เขาสัตย์ซื่อกับพระเจ้า ไม่ประณีประนอมกับความชั่ว ตำหนิความชั่ว นั่นก็เป็นสิ่งที่ควรแก่การยกย่อง เพราะถึงแม้เขาจะถูกคนอื่นรังเกียจ แต่ก็ได้การต้อนรับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มีคริสเตียนจำนวนไม่น้อยที่ถูกคนรังเกียจเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่เพราเหตุเหมือนกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขา แต่เพราะเหตุที่เขาไม่ เหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขา การที่คนอื่นรังเกียจเขานั้น ก็เพราะเขาไม่ระมัดระวังในบางเรื่อง ละเลยในบางเรื่อง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อที่จะช่วยคนเหล่านี้ 

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอยู่ที่บุญที่ทำร่วมกันมา

               คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอยู่ที่บุญที่ทำร่วมกันมา



             มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก  คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน 
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย  ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน 
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า  คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน 
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ  ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด 
เมื่อได้ทราบข่าว  เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก 
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน  ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ 
  
     เวลาผ่านไป  ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น 
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น  มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา 
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน  แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู 
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า  เป็นพระ  จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า 
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต 
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย  อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย 
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ 
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย 
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา  ก็เข้ามา! 
  
       เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า 
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง 
สีหน้าซีดเซียว  ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ 
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา  พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น 
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ 
ชายคนนั้น  นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด 
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี  จึงกล่าวว่า  โทรมมากเลยนะ 
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ  ลองมองที่กระจกสิ 
ชายคนนั้นไม่สนใจ  แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน 
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น  ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป 
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล.... ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา 
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น  มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น 
เขาพบว่า  มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด 
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา 
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ  แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว 
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา  เขามองเห็นศพนั้น 
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น  แล้วเดินจากไป 
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา 
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่  จึงเปิดออกดู  เมื่อพบว่า  เป็นศพ 
ด้วยใจสงสาร  จึงจะฝังให้เรียบร้อย  แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด 
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา 
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น  พอได้หลุมใหญ่พอสมควร 
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป 
  
    จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น 
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ 
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป  เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก 
  
     ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า  ทีนี้เข้าใจรึยัง  ศพนั้นคือคู่รักของโยม 
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ  ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ 
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ 
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน 
  
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก 
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า  โยมรอดแล้ว  เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว 
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด .....
  
 คนเราเจอกัน  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , 
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย


เมื่อมีวาสนา  ไม่ต้องเรียกร้อง  ถึงเวลาก็มาเจอกัน 
เมื่อสิ้นวาสนา  ก็ต้องจากกัน  รั้งยังไงก็ไม่อยู่

ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้    คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง 
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน  ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า  ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า  เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่



*****************************************************

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ

เคยเห็นคนตาบอดไหม ??


คนตาบอด…ที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่
คุณอาจเจอพวกเขาได้ …ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ เช่น ตลาดนัด
พวกเขาไปที่นั่น…
เพราะหวังว่า… คงจะมี คนใจบุญ ไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง
คนสองคน…ที่จับมือกัน
ค่อยๆ เดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ทีละนิด
เพราะต่างคน… ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่
นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว…
ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่าๆ เครื่องนึง
กับไมค์อีกอีกหนึ่งอัน…ที่ขาดไม่ได้…ก็คือขันอลูมิเนียม
อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน

รถโดนกรีดยาง (ให้แง่คิดการให้อภัย)

รถโดนกรีดยาง (ให้แง่คิดการให้อภัย)




คำถามหนึ่งที่คนทั่วไปชอบถามเวลาเจอหน้า คือ ผมโกรธบ้างหรือไม่ ผมก็จะยิ้มๆ และตอบว่า เรายังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมต้องมีความโกรธ แต่โชคดีไม่บ่อยนัก และเวลาโกรธส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกทางกาย ทางวาจา คือ ความโกรธยังไม่ล้นออกมาทางคำพูดและการกระทำ ยังพอควบคุมหรือมีสติเห็นทัน ส่วนใหญ่มักจะเห็นใจที่เดือดอยู่ปุดๆ จะปุดมากปุดน้อย ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์นั้นๆ
โชคดีที่ระยะหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีอาการปุดๆ ในใจเลย นานๆ จะเกิดสักที คนที่จะสามารถทำให้ผมโกรธได้ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เรียกว่าต้องเป็นครูสอนธรรมะระดับเทพเชียวล่ะ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คนโง่ชอบอวดว่าตัวเองฉลาด ดูซิว่าเราฉลาดหรือโง่กันแน่

คนโง่ชอบอวดว่าตัวเองฉลาด ดูซิว่าเราฉลาดหรือโง่กันแน่


ในชีวิตผมผ่านผู้คนมามากมาย ได้เห็นทั้งคนที่ฉลาดสุดๆ และโง่สุดๆ
โดยปกติจะดูคนใหนฉลาดหรือคนใหนโง่ มันจะดูแค่ผิวเผินไม่ได้ 

คนโง่ ก็มีอยู่หลายแบบ มีที่โง่แล้วรู้ตัวเอง ขยันหาความรู้เพิ่มเติม
เพื่อวันหนึ่งความโง่นั้นจะได้หายไป 

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

อย่าดูถูกคนที่ด้อยกว่า

อย่าดูถูกคนที่ด้อยกว่า

จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามบ่อยครั้งเรามักจะดูถูกบางคนที่พูดอะไรโง่ๆ หรือทำอะไรเปิ่นๆ และเรามักจะมีปฏิกิริยาฉับพลันต่อผู้อื่นที่ด้อยกว่าเราในฐานะ ตำแหน่ง การศึกษา การแต่ตัว การกระทำ หรือความสามารถ บางทีอาจถึงขั้นแสดงออกด้วยความเหยียดหยาม
โดยธรรมชาติและวัฒนธรรมคนเราไม่ว่าเชื้อชาติภาษใดมีทั้งภูมิใจและดูถูกคนอื่นที่กระทำบางสิ่งผิดจากวัฒนธรรมที่เรายึดถือปฏิบัติมา อย่างเช่นคนจีน จะเรียกคนต่างชาติว่า “ฮวนนั้ง” ซึ่งแปลว่า คนป่าเถื่อน คนยิวเรียกคนที่ไม่ใช่ยิวว่า “ชาวต่างชาติ” พวกยุโรป อเมริกาเรียกคนที่ไม่มีวัฒนธรรมแบบพวกเขาว่า “พวกอนารยชน” บางทีคนประเทศเดียวกันยังดูถูกกันเองผ่านท่าทีและคำพูด เช่น คนไทยที่เป็นคนเมืองมักจะเรียกคนต่างจังหวัดว่า “พวกบ้านนอก”
บางทีคุณอาจมองว่าคนอื่นแย่กว่าคุณ หรือไม่มีค่าเลยในสายตาคุณ หากคุณกำลังคิดเช่นนั้นคุณกำลังทำความผิดอย่างมาก และเป็นความคิดของคนที่ไม่ได้มีความเชื่อต่อพระเจ้าอย่างแน่นอน เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงสร้างผู้ใดให้ไร้ค่าเลยไม่ว่าเขาจะมีชนชั้นวรรณะอะไรก็ตาม คุณค่าของตัวเขามิได้ด้อยกว่าผู้ใดในพวกท่านเลย แต่พระองค์ทรงกำชับให้เรารักและให้เกียรติคนเหล่านั้นเหมือนที่เรารักและให้เกียรติตัวของเราเอง
จงตระหนักเสมอว่าไม่มีใครจะสมบูรณ์หรือดีเลิศกว่าบุคคลอื่นๆในทุกด้าน คนไร้การศึกษาข้างบ้านคุณอาจจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งด้านการศึกษาก็ว่าได้
ดังนั้นแทนที่จะหลงผิดว่าคุณดีเลิศ และคนอื่นแย่ คุณควรหันกลับมามองคนอื่นด้วยความเห็นใจจะดีกว่า เพราะคุณเองก็มีจุดบกพร่องที่ผู้อื่นสามารถตำหนิได้เช่นกัน

โดย มัรยัมกุบรอ

เปลือกนอก

สุภาพสตรีในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายเรียบๆ กับสามีของเธอในชุดสูทเนื้อผ้าธรรมดาๆ

ก้าวลงจากรถไฟในชานชาลาสถานีเมืองบอสตัน 
ทั้งคู่ยืนรออย่างสงบอยู่หน้าสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เลขานุการสาวดูออกในแว่บเดียวว่าสามีภรรยาซอมซ่อคู่นี้มาจากบ้านนอก
และไม่น่าจะมีธุระอะไรในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งนี้

หล่อนขมวดคิ้ว
"เราต้องการพบท่านอธิการบดี" สามีกล่าวนุ่มนวล 
"ท่านติดนัดตลอดทั้งวัน" เลขาฯ สะบัดเสียงเล็กน้อย 
"งั้นเราจะรอ" ภรรยาตอบ 
เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่เลขานุการทำเป็นไม่สนใจ
โดยประมาณว่าทั้งคู่คงทนไม่ได้ และกลับไปเอง 

คำพูดที่ไม่ดี

คำพูดที่ไม่ดี

มีเด็กสาวคนหนึ่งได้พูดไม่ดีกับเพื่อนสนิทของเธอด้วยอารมณ์แค่ชั่ววูบ หลังจากนั้นไม่นานเธอรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เธอได้พูดไป เธออยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทเสียใจและเพื่อลบความรู้สึกที่ไม่ดีของเธอเกี่ยวกับคำพูดนั้นออกไปจากชีวิตเธอ เธอพยายามทำทุกวิธีทาง แม้เพื่อนของเธอจะให้อภัยแล้วแต่ความรู้สึกไม่ดีในคำพูดนั้นก็ยังคงอยู่ในใจเธอตลอด เธอไม่รู้จะทำยังไงดี
วันหนึ่งเธอจึงได้เดินทางไปขอคำปรึกษาจากหญิงชราผู้มีปัญญาคนหนึ่ง เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้หญิงชราคนนั้นฟังด้วยความเสียใจและอยากจะกลับใจอย่างจริงจัง เมื่อเล่าเสร็จหญิงชราคนนั้นก็บอกให้เธอไปทำสองอย่าง อย่างแรกทำยากสักหน่อยคือ ให้ไปเอาหมอนใบหนึ่งมาฉีกให้เป็นรูแล้วเอาใยนุ่นจากหมอนใบนั้นไปวางไว้หน้าประตูของบ้านทุกหลังในหมู่บ้านของเธอก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น และบอกกับเด็กสาวว่าให้ไปทำอย่างแรกก่อน แล้วค่อยกลับมาทำอย่างที่สอง

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ข้อคิดการตัดสินผู้อื่น

ข้อคิดการตัดสินผู้อื่น


ที่สนามบินนานาชาติระดับโลก มีนักธุรกิจหญิงแต่งตัวดีคนหนึ่ง จำเป็นต้องรอเวลาถึง 3ชั่วโมง ในการเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อไปจุดหมายปลายทาง เธอจึงตัดสินใจเดินไปซื้อหนังสือ 1 เล่มและคุ๊กกี้ 1 ห่อ และเตรียมหาที่นั่งเพื่ออ่านและกินฆ่าเวลาไปพลาง ๆ

เธอสอดส่ายมองหาที่นั่งได้ 1 แห่ง เธอสังเกตเห็นว่าข้างๆเธอมีชายหนุ่มซึ่งนั่งเหยียดกายอย่างไม่สนใจใคร ว่าจะมีใครนั่งอยู่ข้างๆ เขา

วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ทางเดินของชีวิต

ทางเดินของชีวิต

ชีวิตคนเรานั้น แท้จริงคือ การเดินทางชนิดหนึ่ง
ซึ่งเดินจากความเต็มไปด้วยความทุกข์ ไปยัง ที่สุดจบสิ้นของความทุกข์
ที่ตนเคยผ่านมาแล้วนั่นเอง ไม่รู้ว่า ผู้นั้นจะทราบหรือไม่ทราบ รู้สึกหรือไม่รู้สึก
ชีวิตก็ยังคงเป็น การเดินทาง เรื่อยอยู่นั่นเอง เมื่อเดินไป ทั้งไม่ทราบ ก็ย่อมมี
ความระหกระเหิน บอบช้ำเป็นธรรมดา

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กาลและเวลาที่เปลี่ยนหมุนและเวียนไป

กาลและเวลาที่เปลี่ยนหมุนและเวียนไป อาจจะทำให้หัวใจใครหมุนตาม


"กาลและเวลาที่เปลี่ยนหมุนและเวียนไป อาจจะทำให้หัวใจใครหมุนตาม"

มันคือถ้อยคำง่ายๆ ที่แทรกอยู่ในบทเพลงหนึ่ง
ที่ไม่ว่าจะ replay ฟังกี่ครั้งก็ตาม
มันยังคงเป็นประโยคที่ทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงในหัวใจคนได้เสมอ...
หัวใจคนที่ไม่ใช่เพียงแค่คนรัก
แต่ยังหมายถึงเพื่อน และผู้คนที่ดูเหมือนมาใกล้ชิดอีกมากมาย
ที่กาลเวลา..ได้สอนให้เรารู้จักพวกเขามากขึ้น
จนบางครั้ง..รู้ซึ้งถึงคำว่า "น้ำใจ!"

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ตรรกะ

เรื่องของตรรกะ



"ในห้องเรียนวันหนึ่ง ไอสไตน์ถามนักเรียนว่า
" มีคนซ่อมปล่องไฟสองคน กําลังซ่อมปล่องไฟเก่า
พอพวกเขาออกมาจากปล่องไฟ
ปรากฏ ว่า คนหนึ่งตัวสะอาด
อีกคนตัวเลอะเทอะ เต็มไปด้วยเขม่า
ขอถามหน่อยว่า คนไหนจะไปอาบน้ำก่อน "

Pixlr Express สุดยอด app แต่งภาพสวย

Pixlr Express สุดยอด app แต่งภาพสวยหรูปรับละลายฉากหลัง แก้ตาแดง ได้




Pixlr Express สุดยอด app แต่งภาพสวยหรู
Pixlr Express เป็นสุดยอด app ฟรี ได้รับคะแนนสูงสุดถึง 5 ดาวเต็ม
Pixlr Express มีจุดเด่นอยู่ที่ปรับแต่ภาพที่หลากหลายมากๆ แถมทำออกได้สวยเนียนอีกด้วย จึงไม่แปลกใจเลยที่ได้รับ คะแนน โหวด ถึง 5 ดาว โดยที่เด่นของ app นี้จะมีการปรับ ละลายฉากหลังได้ แถมปรับได้ด้วยว่ามากน้อย กว่างแคบขนาดไหน ต่อมาเป็น Overlay ที่มี effect ไฟ แต่ภาพไฟไหม้ได้ ชอบมากโดนใจ app อื่นไม่ค่อยมี สวยงามเลยทีเดียว

วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เรื่องเล่าเกี่ยวกับการปล่อยหอยขมนี้

เรื่องเล่าเกี่ยวกับการปล่อยหอยขม





 "เรื่องเล่าเกี่ยวกับการปล่อยหอยขมนี้ เกิดขึ้นในเมืองเชียงใหม่

    …ในสมัยนั้น มีพระธุดงค์รูปหนึ่ง ท่านเพิ่งเดินทาง ออกมาจากป่า เพื่อบิณฑบาต ระหว่างที่กำลังเดินกลับวัด ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

    …เสียงนั้นมีมากมาย แต่ก็มองไม่เห็นใคร แล้วพอเหลียวไปในกะละมัง ก็เห็นหอยขม กองกันอยู่ในนั้นเยอะมาก พระรูปนี้ท่านเป็นผู้สำเร็จฌาน มองแล้วได้เห็นว่าที่อยู่ในนั้นเป็นลูกเป็นหลานทั้งนั้น แต่ไม่มีใครช่วยเหลือ"

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

จุดนึงในชีวิตที่ต้องตัดสินใจ

บางครั้ง...มันก็ต้องมีจุดนึงในชีวิตที่ต้องตัดสินใจ

บางครั้ง...มันก็ต้องมีจุดนึงในชีวิตที่ต้องตัดสินใจ
และเราพบว่า ทางเลือกมักมีอยู่มากกว่าหนึ่งทาง ให้เราต้องลำบากใจอยู่เสมอ
บ่อยครั้ง ที่เลือกบางอย่าง บางตัวเลือก โดยใช้เพียงอารมณ์
แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว กลับมาพบทีหลังว่า.....
นั่นไม่ใช่ทางที่ดีเท่าไหร่นัก
ใครกันนะ ที่จะสามารถ ใช้เหตุผลได้ตลอด
ใครกันนะ ไม่เคยตัดสินใจผิดพลาด

ชีวิต ความฝัน ความหวัง

ชีวิต ความฝัน ความหวัง




เกิดเป็นคนไม่อดทนก็อดตาย
กว่าจะได้สิ่งที่หมายนั้นยากหนอ
ต้องขยันอดทนและอดออม
เพื่อครอบครองสิ่งที่หวังได้ดั่งใจ

เมื่อเราได้สิ่งที่หวังนั้นมาแล้ว
คงไม่แคล้วจากไปวันข้างหน้า
คงต้องเห็นสิ่งที่หวังพังคาตา
เพราะตนหนาไม่รู้จักหมั่นดูแล

ก็ในเมื่อสิ่งที่หวังนั้นไปแล้ว
อย่าเจื้อยแจ้วเฝ้ารำพึงถึงสิ่งเก่า
เมื่อความฝันและชีวิตเป็นของเรา
แล้วจะมานั่งเศร้าอยู่ทำไม

เมื่อชีวิตกลับมาสู่จุดเริ่มต้น
ต้องอดทนเพื่อต่อฝันยังสิ่งใหม่
ถ้าชีวิตเรายังคงไม่มลายไป
ซักวันไซร้เราคงได้สิ่งใหม่เอย...

(นฤมิตร)


ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก"

ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก" 


ความสำคัญของ "กระดุมเม็ดแรก" 




เคยไหมที่คุณตื่นนอนยามเช้า ครึ่งหลับครึ่งตื่น สวมเสื้อราวกับคนไร้วิญญาณ
 
เมื่อกลัดกระดุมเสร็จแล้วก็พบว่า ชายเสื้อทั้งสองข้างไม่เท่ากัน คุณกลัดกระดุมผิดทั้งแถว!
 

วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

15 ข้อ ฝึกหาความสุขแบบตัดตรง


15 ข้อ ฝึกหาความสุขแบบตัดตรง
15 ข้อ ฝึกหาความสุขแบบตัดตรง (ไม่หรูหราแต่ได้ผลจริง )
พศิน อินทรวงค์

1. ฝึกมองตัวเองให้เล็กเข้าไว้ หมายความว่า จงเป็นคนตัวเล็ก อย่าเป็นคนตัวใหญ่ จงเป็นคนธรรมดา อย่าเป็นคนสำคัญ เวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา อย่าไปให้ความสำคัญกับตัวเองมาก อย่าปล่อยให้จิตใจวนไปวนมากับความ รู้สึกของตัวเอง เหมือนจมอยู่ในอ่าง ลองเปิดตามองไปรอบๆ แล้วมองให้เห็นว่า คนบนโลกนี้มีมากมายแค่ไหน ตัวเราไม่ได้เป็นศูนย์กลางของโลก ดังนั้นก็อย่าไปให้ความสำคัญกับมันมากนัก ทุกข์บ้าง ผิดบ้าง เรื่องธรรมดา

วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

คุณค่าของการรอคอย...

คุณค่าของการรอคอย...



ก า ร ร อ ค อ ย...

เป็นเรื่องที่ทรมานโดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกันหรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้นมันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง 1440 นาที 86400 วินาทีและเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว...จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่าและการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้นก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงาและโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเองพอๆ กับความอ่อนไหวเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึกพิสูจน์ความแข็งแรงของความรักวัดการกระทำ...ความเสมอต้นเสมอปลายและความอดทนด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลาและตัดสินว่า...การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่


ก า ร อ ยู่ ห่ า ง กั น...

จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็งต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆที่คอยรบกวน...และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทางเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย...ที่วันนึงเราพบว่าคนคนหนึ่ง...คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอดและใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝันมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอยกลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา...


เ พ ร า ะ ฉ ะ นั้ น...

ย่อมหมายถึง...ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดาและคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่าเวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุกจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานและสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลาที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้ย่อมเกิดค่ามหาศาล

...ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้หากรู้ว่าเป็นใครสักคน ..ที่มีค่าแก่การรอคอยซึ่งอาจจะช้าบ้างเร็วบ้าง..ก็แตกต่างกันไป

เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย . . . ที่วันนึงเราพบว่า คนคนหนึ่ง . . . คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน♥♥♥









วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

♥ตะกอนความคิด♥


สิ่งที่ฉัน ... ทำได้ !! ...ได้แค่ ... ฝากความคิด ว่า ...