19 ประการในการเป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจ
การที่คน ๆ หนึ่งจะไปร่วมหรือเข้าสังคมกับใครนั้น ถ้าสามารถทำตัวเองให้เป็นคนที่ไม่น่ารังเกียจได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริง ๆ มีคนมากมายถึงแม้จะมีความชาญฉลาดคล่องแคล่ว หรือมีความรู้ความสามารถก็ตาม แต่เมื่อไปอยู่ร่วมกับคนอื่นเพียงไม่นาน ก็เป็นที่น่ารังเกียจต่อคนเหล่านั้น และสิ่งที่น่าเศร้าใจมากกว่า
นี้ ก็คือ มีพี่น้องคริสเตียนที่ร้อนรนรับใช้พระเจ้า แต่กลับเป็นที่น่ารังเกียจในทุกที่ที่เขาเข้าร่วม คือเมื่อคนอื่นเห็นเขาก็รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจอยากหลีกห่างไกลจากพวกเขา และถ้าหากการที่คนอื่นรังเกียจเขาเป็นเพราะเหตุที่เขาสัตย์ซื่อกับพระเจ้า ไม่ประณีประนอมกับความชั่ว ตำหนิความชั่ว นั่นก็เป็นสิ่งที่ควรแก่การยกย่อง เพราะถึงแม้เขาจะถูกคนอื่นรังเกียจ แต่ก็ได้การต้อนรับจากองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่เป็นที่น่าเสียดายที่มีคริสเตียนจำนวนไม่น้อยที่ถูกคนรังเกียจเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่เพราเหตุเหมือนกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขา แต่เพราะเหตุที่เขาไม่ เหมือนองค์พระผู้เป็นเจ้าของเขา การที่คนอื่นรังเกียจเขานั้น ก็เพราะเขาไม่ระมัดระวังในบางเรื่อง ละเลยในบางเรื่อง หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพื่อที่จะช่วยคนเหล่านี้
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมชาติ แสดงบทความทั้งหมด
วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556
คุณจะเลือกทางไหน
คุณจะเลือกทางไหน ?
มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว
มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่
เมื่อรถไฟแล่นมา คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่
แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม?
ป้ายกำกับ:
การเดินทาง,
ความรู้ทั่วไป,
คำคม,
ท่องเที่ยว,
ธรรมชาติ,
ธรรมะ,
สอนใจ
ตนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ
เคยเห็นคนตาบอดไหม ??
คนตาบอด…ที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่
คุณอาจเจอพวกเขาได้ …ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ เช่น ตลาดนัด
พวกเขาไปที่นั่น…
เพราะหวังว่า… คงจะมี คนใจบุญ ไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง
คนสองคน…ที่จับมือกัน
ค่อยๆ เดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ทีละนิด
เพราะต่างคน… ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่
นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว…
ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่าๆ เครื่องนึง
กับไมค์อีกอีกหนึ่งอัน…ที่ขาดไม่ได้…ก็คือขันอลูมิเนียม
อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน
ป้ายกำกับ:
ความรู้ทั่วไป,
คำคม,
ท่องเที่ยว,
ธรรมชาติ,
ธรรมะ,
บทความซึ้งๆ,
สอนใจ
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
การเดินทาง และ แผนที่ เขื่อนรัชชประภา
การเดินทาง และ แผนที่ เขื่อนรัชชประภา
การเดินทาง
เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปจนถึงจังหวัดชุมพร จากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุน จะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ
จากภูเก็ต ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ผ่านสะพานสารสิน เข้าเขตบ้านท่านุ่น เข้าสามแยกบ้านต้นแซะไปทางขวาเข้าถนนบายพาสตรงไปพังงา หรือไม่ต้องผ่านสามแยกต้นแซะ แต่เข้าเลนซ้ายตลอด ผ่านตลาดโคกกลอยตรงไปพังงา ตรงไปจากพังงาถึงทับปุด เข้าทางหลวงหมายเลข 415 ถึง อ.ทับปุด เจอสามแยก เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมาย 4 ตรงไปประมาณ 10 กม. จะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหลายเลข 415 ประมาณ 50 กม. (เขาต่อ) เมื่อถึงสามแยกที่บ้านพังกวนเหลือ ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อผ่าน อ.บ้านตาขุน แล้วจะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางซ้ายมือ
***ต้องการนอนแพ และนำรถมาด้วย สามารถจอดรถไว้ได้ที่ท่าเรือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของท่าเรือดูแลอยู่ตลอดทั้งคืน
จากภูเก็ต ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 402 ผ่านสะพานสารสิน เข้าเขตบ้านท่านุ่น เข้าสามแยกบ้านต้นแซะไปทางขวาเข้าถนนบายพาสตรงไปพังงา หรือไม่ต้องผ่านสามแยกต้นแซะ แต่เข้าเลนซ้ายตลอด ผ่านตลาดโคกกลอยตรงไปพังงา ตรงไปจากพังงาถึงทับปุด เข้าทางหลวงหมายเลข 415 ถึง อ.ทับปุด เจอสามแยก เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมาย 4 ตรงไปประมาณ 10 กม. จะพบสามแยก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหลายเลข 415 ประมาณ 50 กม. (เขาต่อ) เมื่อถึงสามแยกที่บ้านพังกวนเหลือ ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 เมื่อผ่าน อ.บ้านตาขุน แล้วจะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางซ้ายมือ
***ต้องการนอนแพ และนำรถมาด้วย สามารถจอดรถไว้ได้ที่ท่าเรือ โดยมีเจ้าหน้าที่ของท่าเรือดูแลอยู่ตลอดทั้งคืน
รถโดยสารประจำทาง
- จากกรุงเทพ กรุงเทพ-พังงา หรือ กรุงเทพ-ภูเก็ต แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลง ปากทางเข้าเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตรง อ.บ้านตาขุน จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทาง เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง
- จากปากทางเข้าเขื่อน บริเวณ อ.บ้านตาขุน สามารถเรียก มอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้ามาส่งในเขื่อนได้ ราคา 130 บาท/คน หากมากันหลายคน ต้องลองติดต่อหารถปิคอัพหรือสองแถวที่อยู่แถวนั้น ให้ไปส่งได้ แต่อาจจะหารถยากซักหน่อย หรือ รอรถตู้ที่วิ่งจาก อ.เมืองสุราษฯ เข้าไปตลาดนัดหมู่บ้านการไฟฟ้าฯในเขื่อน จะมาทุกๆ 1 ชั่วโมง
เนื่องจากเวลาที่เดินทางมาถึงเป็นช่วงเช้ามืด ถ้ามาทางรถทัวร์ ประมาณ ตี 5-6 โมงเช้า วิธีที่ดีที่สุดคือ ติดต่อผู้บริการเรือหางยาว ไว้ตั้งแต่แรก ให้เอารถมารับจากปากทาง ตามเวลาที่ตกลงกันไว้ก่อน ติดต่อ คุณโอ 08-6593-3440 จะเป็นรถกระบะมีแค๊ป หรือ แบบอื่นๆ บริการรับส่ง ไม่กำหนดเวลา เรียกใช้บริการได้ตลอดเวลา หากต้องการให้ไปรับที่ปากทางเข้าเขื่อน โดยมาเพียง 1-3 คน จะคิดราคาคนละ 150 บาท/คน แต่หากมาตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป คิดราคาเหมา เที่ยวละ 500 บาท นอกเหนือเส้นทาง ก็สามารถบริการได้ โดยโทรมาแจ้งเส้นทางไว้ก่อน - อีกเส้นทางจากกรุงเทพ กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี ลงรถทัวร์ที่ สถานีขนส่งสุราษฎร์ธานีแล้ว ต่อรถ 2 แถว ไปตลาดเกษตร 2 เพื่อไปขึ้น รถตู้ สุราษฎร์ฯ - เขื่อน ราคา 150 บาท รถออกทุก 1 ชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางถึงเขื่อน 1 ชั่วโมง
จากบ้านดอน (บ้านดอน คือชื่อ อ.เมืองสุราษฯ) เที่ยวแรก 7.00 น. เที่ยวสุดท้าย 18.00 น.
จากเขื่อน เที่ยวแรก 6.30 น. เที่ยวสุดท้าย 16.30 น.
ตลาดเขื่อนคือตลาดนัด ในบ้านพักการไฟฟ้า ของเขื่อนเชี่ยวหลาน ถ้าหากจะให้ไปส่งที่ท่าเรือ ให้บอกรถตู้ไว้ตั้งแต่นั่นเนิน (อาจจะมีคิดราคาเพิ่มเล็กน้อย)
*** อย่าหลงไปนั่งรถตู้ภูเก็ต เขาจะคิด 200 บาท และลงได้แค่ปากทางเข้าเขื่อนเชี่ยวหลาน ***จองตั๋วรถทัวร์ กรุงเทพ-พังงา, กรุงเทพ-ภูเก็ต, กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี
การเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี
การเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี (สนามบิน,สถานีรถไฟ,สถานีขนส่งสุราษฎร์) มายังท่าเทียบเรือเขื่อนเชี่ยวหลาน,ภูผาและลำธารรีสอร์ท โดยใช้บริการรถตู้โดยสารประจำทาง ซึ่งจะออกจากต้นสายทุกๆ 1 ชม. ซึ่งสามารถโทรแจ้งสถานที่รับ จำนวนท่าน และจุดหมายปลายทางที่จะลง
เบอร์โทรรถตู้ประจำเส้นทางต่างๆ มีดังนี้
เบอร์โทรรถตู้ประจำเส้นทางต่างๆ มีดังนี้
- รถตู้สายสุราษฎร์-เขื่อนรัชชประภา โทร.077-212514
- รถตู้สายเขื่อนรัชชประภา-สุราษฎร์ โทร.077-346088
- รถตู้สายสุราษฎร์-เขาสก โทร.077-206217
การขึ้นรถทัวร์กลับหากไม่ได้จองมาตั้งแต่แรก ก็สามารถมาติดต่อ สำนักงานตัวแทนขายตั๋ว ใน อ.บ้านตาขุน เป็นสำนักงานตัวแทน
ทางเครื่องบินสามารถมาลงยัง สนามบินใกล้เคียงได้ 3 สนามบิน สุราษฎร์ธานี, กระบี่, ภูเก็ต จากระยะทางระหว่างสนามบินสุราษฎร์ธานีกับเขื่อนเชี่ยวหลานจะใกล้กันมากที่สุด รองลงมาเป็นสนามบินกระบี่ และสนามบินภูเก็ตไกลสุดสนามบินสุราษฎร์ธานี ระยะห่างเขื่อนประมาณ 65km มีจำนวนเที่ยวบินปานกลาง การเดินทางต่อไปเขื่อน มีให้เลือกน้อย สนามบินกระบี่ ระยะห่างเขื่อนประมาณ 140km มีจำนวนเที่ยวบินปานกลาง การเดินทางต่อไปเขื่อน มีให้เลือกน้อย สนามบินภูเก็ต ระยะห่างเขื่อนประมาณ 160km มีเที่ยวบิน หลายเที่ยวบิน ตลอดทั้งวัน การเดินทางต่อไปเขื่อน มีให้เลือกมากมาย หากมาลงสนามบินสุราษฎร์ฯ
ทางรถไฟตารางเวลาเดินรถ และการจองตั๋วรถไฟ สอบถามรายละเอียดได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690, 0 2223 7010, 0 2223 7020, 0 2220 4334 หรือ www.railway.co.thการเดินทางโดยรถไฟต้องไปลงที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี (อยู่ที่อำเภอพุนพิน) แล้วต่อรถประจำทาง หรือรถทัวร์ของบริษัทท่องเที่ยว ไปจังหวัดภูเก็ต หรือ พังงา เพื่อมาลงตรงหน้าปากทางเข้าเขื่อน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง รถประจำทาง ที่ผ่านสถานีรถไฟ เที่ยวแรก 6.30น และมีมาทุกๆชั่วโมง รถบัส สีส้ม เส้นทาง สุราษฎร์-ตะกั่วป่า-ภูเก็ต ค่าโดยสาร 50 บาท รถบัส สีน้ำเงิน พุนพิน-ตาขุน-พนม ราคาประมาณ 50 บาท รถบัส หรือรถตู้ขนาดใหญ่ D4D ของบริษัททัวร์ ที่จะไป ภูเก็ต หรือ กระบี่ เที่ยวแรก 7.30น และมีมาทุกชั่วโมง ค่ารถบัส 280 บาท ถ้าเป็นรถตู้ 350 บาท |
ป้ายกำกับ:
การเดินทาง,
การถ่ายรูป,
ความรู้ทั่วไป,
ท่องเที่ยว,
ธรรมชาติ,
nature,
travel
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)