แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมะ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธรรมะ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอยู่ที่บุญที่ทำร่วมกันมา

               คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอยู่ที่บุญที่ทำร่วมกันมา



             มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก  คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน 
เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย  ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน 
ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า  คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน 
โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ  ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด 
เมื่อได้ทราบข่าว  เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก 
ร้องไห้ไม่กินไม่นอน  ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ 
  
     เวลาผ่านไป  ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น 
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น  มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา 
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน  แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู 
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า  เป็นพระ  จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า 
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต 
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย  อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย 
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ 
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย 
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา  ก็เข้ามา! 
  
       เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า 
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง 
สีหน้าซีดเซียว  ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ 
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา  พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น 
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ 
ชายคนนั้น  นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด 
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี  จึงกล่าวว่า  โทรมมากเลยนะ 
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ  ลองมองที่กระจกสิ 
ชายคนนั้นไม่สนใจ  แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน 
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น  ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป 
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล.... ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา 
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น  มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น 
เขาพบว่า  มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด 
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา 
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ  แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว 
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา  เขามองเห็นศพนั้น 
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น  แล้วเดินจากไป 
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา 
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่  จึงเปิดออกดู  เมื่อพบว่า  เป็นศพ 
ด้วยใจสงสาร  จึงจะฝังให้เรียบร้อย  แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด 
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา 
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น  พอได้หลุมใหญ่พอสมควร 
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป 
  
    จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น 
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ 
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป  เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก 
  
     ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า  ทีนี้เข้าใจรึยัง  ศพนั้นคือคู่รักของโยม 
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ  ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ 
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ 
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน 
  
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก 
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า  โยมรอดแล้ว  เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว 
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด .....
  
 คนเราเจอกัน  ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , 
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย


เมื่อมีวาสนา  ไม่ต้องเรียกร้อง  ถึงเวลาก็มาเจอกัน 
เมื่อสิ้นวาสนา  ก็ต้องจากกัน  รั้งยังไงก็ไม่อยู่

ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้    คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง 
เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน  ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า  ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า  เราจะต้องจากกันเมื่อไหร่



*****************************************************

วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คุณจะเลือกทางไหน

คุณจะเลือกทางไหน ?





มีเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นกันใกล้รางรถไฟ 2 ราง
รางหนึ่งอยู่ในระหว่างการใช้งาน ในขณะที่อีกรางหนึ่งไม่ได้ใช้งานแล้ว
มีเพียงเด็กคนเดียวเท่านั้นที่เล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
ส่วนเด็กที่เหลือนั่งเล่นอยู่บนรางที่ยังใช้งานอยู่
เมื่อรถไฟแล่นมา คุณอยู่ใกล้ๆที่สับรางรถไฟ
คุณสามารถเปลี่ยนทางรถไฟไปยังรางที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่
แต่นั่นหมายถึงการเสียสละชีวิตของเด็กคนที่เล่นอยู่บนรางที่ไม่ได้ใช้งาน
หรือคุณเลือกจะปล่อยให้รถไฟวิ่งทางเดิม?

ตนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ

เคยเห็นคนตาบอดไหม ??


คนตาบอด…ที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่
คุณอาจเจอพวกเขาได้ …ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ เช่น ตลาดนัด
พวกเขาไปที่นั่น…
เพราะหวังว่า… คงจะมี คนใจบุญ ไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง
คนสองคน…ที่จับมือกัน
ค่อยๆ เดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ทีละนิด
เพราะต่างคน… ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่
นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว…
ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่าๆ เครื่องนึง
กับไมค์อีกอีกหนึ่งอัน…ที่ขาดไม่ได้…ก็คือขันอลูมิเนียม
อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน

รถโดนกรีดยาง (ให้แง่คิดการให้อภัย)

รถโดนกรีดยาง (ให้แง่คิดการให้อภัย)




คำถามหนึ่งที่คนทั่วไปชอบถามเวลาเจอหน้า คือ ผมโกรธบ้างหรือไม่ ผมก็จะยิ้มๆ และตอบว่า เรายังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ย่อมต้องมีความโกรธ แต่โชคดีไม่บ่อยนัก และเวลาโกรธส่วนใหญ่จะไม่แสดงออกทางกาย ทางวาจา คือ ความโกรธยังไม่ล้นออกมาทางคำพูดและการกระทำ ยังพอควบคุมหรือมีสติเห็นทัน ส่วนใหญ่มักจะเห็นใจที่เดือดอยู่ปุดๆ จะปุดมากปุดน้อย ก็ขึ้นอยู่กับระดับของเหตุการณ์นั้นๆ
โชคดีที่ระยะหลังๆ มานี้ ไม่ค่อยมีอาการปุดๆ ในใจเลย นานๆ จะเกิดสักที คนที่จะสามารถทำให้ผมโกรธได้ต้องเป็นคนที่เก่งมากๆ เรียกว่าต้องเป็นครูสอนธรรมะระดับเทพเชียวล่ะ

วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คนโง่ชอบอวดว่าตัวเองฉลาด ดูซิว่าเราฉลาดหรือโง่กันแน่

คนโง่ชอบอวดว่าตัวเองฉลาด ดูซิว่าเราฉลาดหรือโง่กันแน่


ในชีวิตผมผ่านผู้คนมามากมาย ได้เห็นทั้งคนที่ฉลาดสุดๆ และโง่สุดๆ
โดยปกติจะดูคนใหนฉลาดหรือคนใหนโง่ มันจะดูแค่ผิวเผินไม่ได้ 

คนโง่ ก็มีอยู่หลายแบบ มีที่โง่แล้วรู้ตัวเอง ขยันหาความรู้เพิ่มเติม
เพื่อวันหนึ่งความโง่นั้นจะได้หายไป