คะแนนความตรงเป้าหมาย ของการลงโฆษณาเฟสบุ๊ค
คะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณา เทคนิคการลงโฆษณาเฟสบุ๊ค ลงโฆษณาเฟสบุ๊ค ลงโฆษณาfacebookโปรโมทเพจ โฆษณาเพจ โปรโมทโพส
ยิ่งโฆษณามีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมมากเท่าไร โฆษณาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น คะแนนความเกี่ยวข้องทำให้คุณเข้าใจได้อย่างง่ายดายว่าโฆษณาของคุณสอดคล้องกับกลุ่มผู้เข้าชม
เสียค่าใช้จ่ายน้อยลงในการเข้าถึงผู้เข้าชมเป้าหมาย
ในการแสดงโฆษณาของโฆษณาผ่านเฟสบุ๊ค ads โปรโมทเพจลงโฆษณาเฟสบุ๊ค ลงโฆษณาfacebook โปรโมทเพจ โฆษณาเพจ นั้นทาง Facebook ต้องพิจารณาว่าโฆษณานั้นมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นมากน้อยเพียงใด เมื่อโฆษณาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าชม คะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณานั้นจะสูงขึ้น และโฆษณานั้นจะมีโอกาสมากกว่าในการแสดงแก่ผู้เข้าชมเมื่อเทียบกับโฆษณาอื่นๆ ที่กำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เข้าชมกลุ่มเดียวกัน ผลลัพธ์คือ คุณเสียค่าใช้จ่ายน้อยลงในการเข้าถึงผู้เข้าชมเป้าหมาย หากคุณกังวนใจในเรื่องนี้ติดต่อเราได้
คะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณายังช่วยในด้าน:
- ทำให้ทราบว่าควรเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของโฆษณาเมื่อใด เมื่อคะแนนของโฆษณาลดลง อาจเป็นตัวชี้วัดว่าถึงเวลาที่คุณควรเปลี่ยนแปลงตัวโฆษณาหรือเปลี่ยนการกำหนดเป้าหมายของโฆษณานั้น
- ทำให้ทราบว่าโฆษณาชิ้นใดมีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมมากกว่า คุณสามารถใช้คะแนนในการทดสอบโฆษณาของคุณ เพื่อดูว่าข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอแบบใดสอดคล้องกับกลุ่มผู้เข้าชมเป้าหมายของคุณมากที่สุอด
คะแนนดังกล่าวนี้ทำงานอย่างไร
หลังจากมีการแสดงโฆษณาของคุณมากกว่า 500 ครั้ง โฆษณาของคุณจะได้รับคะแนนความเกี่ยวข้องเป็นรายวัน ระดับคะแนนมีตั้งแต่ 1–10 สิบคะแนนหมายความว่าเราประมาณการว่าโฆษณาของคุณมีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมอย่างมาก และหนึ่งคะแนนหมายความว่าเราประมาณการว่าโฆษณาของคุณไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมเท่าใดนัก คุณสามารถดูคะแนนได้ใน ตัวจัดการโฆษณา โดยการไปที่ แคมเปญ และคลิกที่ โฆษณา
คะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณาของคุณมาจากผลตอบรับทั้งแง่บวกและแง่ลบที่เราได้รับจากผู้คนที่ได้ดูโฆษณานั้น โดยมีเกณฑ์วัดคือประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาชิ้นนั้น วิธีคำนวณคะแนนจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การโฆษณาของคุณ (เช่น การคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ หรือ การชมวิดีโอ)
- ผลตอบรับแง่บวกจำนวนครั้งที่เราคาดว่าผู้คนจะดำเนินการตามที่ต้องการ เช่น แชร์หรือกดถูกใจโฆษณาของคุณ หรือช่วยให้คุณบรรลุวัตถุประสงค์การโฆษณา เช่น เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
- ผลตอบรับแง่ลบจำนวนครั้งที่เราคาดว่าผู้คนจะซ่อนโฆษณาของคุณหรือระบุว่าได้รับประสบการณ์แง่ลบจากโฆษณาของคุณ เช่น การเลือกไม่รับชมโฆษณาจากคุณ
ดูตัวอย่างด้านล่างนี้เพื่อให้คุณเข้าใจการทำงานของคะแนนมากยิ่งขึ้น หรืออ่านรายละเอียดในส่วนถัดไปเพื่อเรียนรู้วิธีการเพิ่มคะแนนของคุณ
โฆษณาตัวอย่างพร้อมด้วยคะแนนความเกี่ยวข้อง
ตัวอย่างที่ 1. การให้คะแนน 2 / 10
การกำหนดเป้าหมาย: ชายและหญิง, อายุ 18-34, อาศัยอยู่ในประเทศไทย
โฆษณากำหนดกลุ่มผู้เข้าชมเป้าหมายกว้างมาก และมีข้อความที่ค่อนข้างครอบคลุมสำหรับบุคคลทั่วไป
ซึ่งหมายความว่าผู้เข้าชมบางกลุ่มอาจรู้สึกว่าโฆษณานี้ไม่เกี่ยวข้องและไม่เกิดการดำเนินการใดๆ
นอกจากนี้ ภาพที่ไม่คมชัดของโฆษณาอาจทำให้ผู้คนกดซ่อนโฆษณา ส่งผลให้เกิดผลตอบรับในแง่ลบ
ตัวอย่างที่ 2. การให้คะแนน 5 / 10
การกำหนดเป้าหมาย: หญิง, อายุ 18-34, อาศัยอยู่ในประเทศไทย
ตอนนี้โฆษณากำหนดกลุ่มผู้เข้าชมเป้าหมายเป็น ผู้หญิง เท่านั้น
เพื่อเป็นการจำกัดกลุ่มผู้เข้าชมให้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น รูปภาพของโฆษณาได้รับการปรับปรุง
และข้อความมีลักษณะบรรยายชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ยังคงขาดการชี้นำที่ชัดเจนว่าต้องการให้ผู้เข้าชม
ดำเนินการอย่างไรเมื่อเห็นโฆษณา แม้โฆษณาลักษณะนี้จะลดผลตอบรับแง่ลบให้น้อยลง
แต่ก็อาจยังไม่ได้รับผลตอบรับแง่บวกมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 3. การให้คะแนน 8 / 10
การกำหนดเป้าหมาย: หญิง, อายุ 18-34, อาศัยอยู่ในประเทศไทย, สนใจการลงโฆษณาเฟสบุ๊ค,โปรโมทเพจ,โปรโมทโพส
มีการกำหนดกลุ่มผู้เข้าชมที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น โดยการจำกัดกลุ่มเป็นผู้หญิงที่มีความสนใจด้านสนใจการลงโฆษณาเฟสบุ๊ค,โปรโมทเพจ,โปรโมทโพส ข้อความมีความชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ พร้อมทั้งมีการแนะนำว่าผู้เข้าชมควรดำเนินการอย่างไร โดยการเพิ่มปุ่มกระตุ้นการดำเนินการ
เพิ่มคะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณาของคุณ
1.กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เฉพาะเจาะจงหากคุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายกว้างๆ เช่น ชายและหญิง, อายุ 18–25 ปีและอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา โฆษณาของคุณอาจไม่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าชมทุกคนในกลุ่มนี้ พยายามจำกัดกลุ่มผู้เข้าชมให้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้นโดยการระบุตำแหน่งที่ตั้ง อายุ ความสนใจ และพฤติกรรม
2.พิจารณารูปภาพและข้อความของโฆษณาของคุณพิจารณาดูว่าข้อความและรูปภาพ (หรือวิดีโอ) ของโฆษณาจะมีความเกี่ยวพันกับผู้เข้าชมของคุณอย่างไรบ้าง รูปภาพ/วิดีโอนั้นสะดุดตากว่าข้อความ ดังนั้นขอให้เน้นที่การปรับปรุงองค์ประกอบเหล่านี้ก่อน นอกจากนี้ คุณควรใช้ข้อความที่เรียบง่ายและเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังโปรโมท
3.การเปลี่ยนแปลงเนื้อหาโฆษณาเมื่อเวลาผ่านไป ผู้เข้าชมที่เคยตอบรับกับโฆษณาของคุณอย่างดีจะเริ่มเบื่อโฆษณานั้น เมื่อคะแนนความเกี่ยวข้องของโฆษณาต่ำลง ลองสร้างโฆษณาอื่นที่มีบริบทใหม่สำหรับผู้เข้าชมดู
4.เรียนรู้จากการทดสอบลองแสดงโฆษณาแบบต่างๆ ที่กำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน หรือใช้โฆษณาเดียวกันกับผู้เข้าชมต่างกลุ่ม มองหาแบบแผนในโฆษณาเดิมที่มีอยู่อาจทำให้คุณได้ข้อมูลเชิงลึกว่าโฆษณาแบบใดทำงานได้ดีกว่า เช่น โฆษณาชิ้นใดได้รับคะแนนสูงสุดและโฆษณาเหล่านั้นมีอะไรที่เหมือนกันบ้าง
5.หลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความขุ่นเคืองเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความขุ่นเคืองอาจดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ แต่บน Facebook โฆษณาลักษณะนี้สร้างประสบการณ์ที่เลวร้ายแก่ผู้เข้าชม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น